หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

Review : BattleShip

BattleShip






ด้วยความกระหายหนังแนว Action Sci-Fi  จึงไม่พลาดที่จะไปดูในวันแรกที่หนังเข้าโรงภาพยนต์
ต้องบอกว่าคนเยอะมาก
เริ่มดูปุ๊บอย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือ สิ่งที่ โปรโมททำให้เราเข้าใจว่าเอเลี่ยน "ซุ่มซ่อน" อยู่ใต้ทะเลลึก
แล้วโผล่ขึ้นมาอะลาวาด
แต่ต้องบอกตรงนี้เลยว่า "มันไม่ใ่ช่ !!!" ทำไมต้องทำให้เข้าใจผิดด้วยเนี่ย
มันพึ่งมาครับผม  มายังไงทำไมถึงมาก็ต้องไปดูกัน

  • ไม่มีฉายในรูปแบบ 3 มิติ ( ทำไม !!!! )
  • แรกๆพระเอกจะออกแนวสร้างปัญหาไปทั่ว ( แอบเซ็ง )
  • พระเอกฉลาดเป็นกรดแต่ดันบ้าพลังอยากโชว์พาวเลยดูเป็นจำเลยในช่วงต้น
    แต่หลังๆคิดได้กลับมาพงาดเป็นฮีโร่ ( ดราม่าสุดๆ )
  • แอบมีมุกตลกเหมือนตอนเด็กๆมีเรื่องทะเลาะเตะต่อยกะเพื่อนแล้วครูจับได้
    เพื่อไม่ให้มีปัญหาก็แต่งเรื่องเนียนๆว่าเป็นอุบัติเหตุ ( ซึ่งไม่เคยเนียนและความแตกทุกครั้ง )
    แต่นี่เปลี่ยนจากเด็ก 2 คนเป็นกัปตัน


  • ฉีกกฏยานเอเลี่ยนไปเลยก็ว่าได้ที่ปรกติต้องบินได้เฟี๊ยวฟ้าว วาปไปมาวูบวาบ
    แต่มาคราวนี้บินไม่ได้ครับ ( ตึ่ง! )
    แต่สภาพยานเสมือน "กบ" ย้ำอีกครั้ง ว่าเหมือน "กบ" ลอยอยู่บนน้ำ
    และเคลื่อนที่ด้วยการ กระโดด!!
  • ทั้งเรื่องยานเอเลี่ยนอยู่แต่ในน้ำและบนน้ำ ( ไม่คิดจะขึ้นบกกันเลย )
    ให้ตายสิยานเอเลี่ยนกระโดด คิดได้ไงเนี่ย มันเจ๋งจริงๆ อยากรู้ว่ากระโดดยังไงต้องไปดู
  • เอเลี่ยนเรื่องนี้เป็นเอเลี่ยนที่มีจริยธรรมสูงมาก อารมณ์ประมาณว่าถ้าสิ่งไหนไม่เป็นภัยก็ไม่ทำอะไร
    ต่างจากเอเลี่ยนจากหนังที่ผ่านมาถ้าไม่แสนดีเว่อร์ๆ มาโลกนี้เพื่อหลบภัยแล้วถูกทำร้าย
    ก็เป็นพวกมาถึงก็ใส่เอาๆฆ่าแหลกไม่พูดไม่จาเจอหน้าก็ใส่ไม่ยั้ง
    แต่เรื่องนี้มีแบบสู้ๆกันอยู่อาวุธหลุดมือสถานะกลายเป็นปลอดภัย ( ซะงั้น !! )
  • แน่นอนว่าไม่ว่าหนังเรื่องไหนเทคโนโลยีของเอเลี่ยนจะเลิศหรูกว่าของมนุษย์เสมอ

  • นางเอกสวยและนมใหญ่มาก ( มันจี๊ดก็ตรงเนี้ย )
    แสดงโดย Brooklyn decker  
  • ต้องยอมรับตรงๆว่า Rihana เธอแสดงได้เยี่ยมแต่เหมือนไม่ถูกจดจำมากเท่านางเอก (ผมเป็นคนเดียวรึเปล่าเนี่ย ?)
  • นาวิกรุ่นเก๋าก็ไฟแรงไม่ใช่ย่อย+นักเลงใช้ได้เลยล่ะ

  • แอบมีมุมตอนเรือล่มเหมือน ไททานิคเล็กน้อยแต่เปลี่ยน แจ๊ค&โรส เป็น คู่หูกัปตัน 
  • จบได้ดีเพราะค่อนข้างตรงใจกับหลายๆคนที่คิดไว้
  • อย่าพึ่งรีบลุกจากที่นั่งเพราะมีอะไรอีกนิดหน่อยหลังจบเครดิต ^^
ในเรื่องมีการแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือร่วมใจ ความรักชาติ และสภาวะผู้นำ และข้อคิดหลายๆอย่างเช่น
  • ไม่ว่านะเป็นเครื่องมือใดๆต่อให้เก่าหรือล้าหลังสักแค่ไหนถ้ารู้จักใช้มันย่อมเกิดประสิทธิผลมหาศาล
  • ผู้นำที่ดีต้องรู้จักยอมรับความพ่ายแพ้แต่ไม่ควรที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ 
18+ ภาพนางเอกเล็กๆน้อยๆ



  สรุปเลยว่าเป็นหนังที่เยี่ยมยอมเรื่องนึงเลยสำหรับผมอาจจะมีขัดหูขัดตาเรื่องการออกแบบตัวละครเอเลี่ยนไปบ้างแต่โดยรวมต้องบอกว่าห้ามพลาด

ตัวอย่างภาพยนต์




Review : Act of Valor

Act of Valor






ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบดูหนังแนว Action Sci-Fi อยู่แล้วทำให้มีความกระตือรือร้นไปดูอย่างมากแต่
งานมันยุ่งเหลือเกิน 
  คนส่วนใหญ่ เวลาจะดูหนังที่อยากดู ก็มักจะหาโอกาสไปดูในวันแรกๆที่เข้าฉาย หรือไม่ก็ 1-2 อาทิตย์
หนังจากเปิดรอบในโรงภาพยนต์ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ผมได้มีโอกาสไปดู รอบ  22:35  
และเป็นรอบสุดท้าย - -! เรียกได้ว่ารู้สึกเหมืือนเหมาโรงมานั่งดูเลยทีเดียว
เริ่มที่ความรู้สึกกับชื่อหนังไทยก็แปลมาแล้ว ดูเว่อๆไปนิดนึง( หน่วยพิฆาต ระห่ำกู้โลก 
ตามสเตปหนังบู้ส่วนมากที่พอจะจำได้ก็จะมีคำเดิมๆนิยมใช้อยู่ประมาณว่า
ระห่ำ,เดือด,ระทึก,มหาปะลัย,สะท้านโลก,มหากาฬ,กู้โลก (แต่ก็ชอบนะ ^^)
และที่สำคัญคือ เค้าว่า ใช้ กล้อง DSLR[5D MARKII] ถ่ายทำเกือบทั้งเรื่อง O,O ภาพจะเมพแค่ไหนมาดูกัน




เรื่องคร่าวๆคือหน่วย Seal(ซีล) ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยตัวประกันที่โดนจับไปทรมานเพราะเธอ
เป็นสายลับของอเมริกาซึ่งถือข้อมูลสำคัญ
ดูหนังในช่วงแรกจะงงเล็กน้อยเพราะจะเจอเพื่อนพระเอกนั่งเขียนจดหมายถึงใครก็ไม่รู้
มารู้เอาตอนจบ  (ใครกันหว่า)
หลังจากรับมอบหมายก็ตามสเตปหนังบู๊เลยครับ "บุกตะลุยมันให้ทะลุอย่างไมหยุดยั้ง!"







  • ฉากที่โดนใจที่สุดคงจะเป็นฉากที่บุกช่วยตัดประกันที่ให้ Sniper สอยยามแล้วมีเพื่อนคนนึง
    ไปรอรับศพบนผิวน้ำไม่ให้ศพกระแทกพื้น้ำเกิดเสียงดัง
    ( มันจี๊ดมาก !!!)
  • ทหารก็เป็นนักแสดงได้
  • หนังเรื่องนี้บอกเป็นนัยๆว่า เป็นสายลับต้องอดทน
  • บางทีก็รู้สึกว่าเธอ(สายลับที่ถูกจับ)มีความอดทนสูงมาก 
  • ดูเป็นธรรมชาติการแสดงออกไมเป๊ะเว่อจนเกินไป

  • อาวุธและเทคโนโลยีที่พกติดตัวของทหารแต่ละคนใช้ได้ทันเวลาและถูกสถานะการณ์
    ประมาณว่ามีมิสไซต์อยู่ก็ยกขึ้นมายิงช่วยเพื่อนๆให้รอดได้ทัน
    (ไม่เหมือนหนังบางเรื่องที่ตัวละครถือปืนอยู่แต่ไม่ยิงซักที
    ถือไว้จนถูกยิงตาย - -! ไม่รู้จะถือไว้ทำไมดูแล้วขัดใจ เป็นกันมั้ยครับ?)

  • หน่วย Seal ก็ใช้ Canon นะจ๊ะ ^^

  • หนังในหลายๆช่วงไม่ค่อยประติดประต่อกันเท่าที่ควรหรือผมตามไม่ทันก็ไม่รู้นะ
    อย่างบางช่วงขับรถพุ่งลงน้ำ มีคนนึงว่ายขึ้นเรือเสร็จตัดมาฉากขึ้นเรือกันครบละทั้งที่มีคนเจ็บ
    ความรู้สึกผมมันน่าจะทุลักทุเลสักหน่อยแต่ขึ้นเรือกันได้ไวเกินไป 
  • Effect ต่างๆทำออกมาได้โอเคถึงจะไม่ถึงดีมาแต่ก็ถือว่าดีในระดับนึง
  • ผมรู้สึกว่าการเปลี่ยนกระสุนปืนมีจังหวะที่ดีมากและเป็นธรรมชาติสุดๆ ( อาจเพราะนักแสดงเป็น
    หน่วย Seal จริงๆเลยทำได้ดี ) ไม่เหมือนหนังไทยบางเรื่องยิงกันเป็นชั่วโมงกระสุนหมดเป็นโหลๆ
    แต่ไม่เคยเปลี่ยนแมกาซีนสักอัน อารมณ์ Unlimited มากไป
  • ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีทีมที่ดีก็จบเห่
  สรุปโดยรวมการดำเนินเรื่องดีเลยทีเดียวแต่ละฉากมีการเชื่อมกันอย่างมีเหตุผลที่สมควรจะเป็น
เป็นหนังที่แฝงแง่คิดไว้มากมายทั้งเรื่องครอบครัว,การเสียสละ,การทำงานเป็นทีม
การเชื่อใจกันและกัน



ประโยคเด็ด "ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสียสละ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง"


ตัวอย่างหนัง





เครดิต : actofvalor.com