วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ไม้บรรทัด
เมื่อคนทุกคนมีต้นทุนชีวิตต่างกัน ต้นทุนทางสังคมต่างกัน ทำให้การดำเนินชีวิตต่างกันออกไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดลักษณะแนวคิดที่สะสมเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ทุกคนจึงมีไม้บรรทัดทางความคิดเป็นของตัวเอง บางคนยาว บางคนสั้น บางคนแข็งและคม บางคนกลับอ่อนใสแตกหักง่ายแต่เมื่อมองแล้วกลับสวยงาม เราจึงไม่ควรเอาไม้บรรทัดของเราไปใช้เพื่อวัดใคร ในทางกลับกันก็ไม่มีใครอยากที่จะถูกวัดเช่นกัน แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือหลายๆคนคิดว่ามันเป็นการแข่งขันจึงชอบที่จะวัดไม้บรรทัดของตนกับผู้อื่นอยู่เสมอๆ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นในบางกรณี แต่ในหลายๆกรณีคือการดูถูกเหยียดหยามว่าเค้าไม่สามารถทำได้แบบเรา ทำไมเค้าไม่คิดได้แบบเรา ก็เพราะ "ไม้บรรทัดแต่ละคนไม่เท่ากัน"
ป้ายกำกับ:
2012
วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันเกิด
ในทุกๆปี วันคล้ายวันเกิดของผมจะหาสิ่งที่ไม่เคยได้ให้กับชีวิต ผมคิดว่าปีๆนึง น่าจะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต อย่างน้อยๆสัก 1 สิ่ง (อาจจะมากมายในบางปี)
สิ่งของใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ
ในหลายๆปีที่ผ่านมา ส่วนมากก็จะซื้อแต่ของใช้ของที่อยากได้ ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา ipod รองเท้า(รุ้สึกจะบ่อยที่สุด) บ้างก็ไปเที่ยวในที่ๆไม่เคยไป
แต่วันนี้ เป็นอีกวันที่เป็นวันคล้่ายวันเกิด วันนี้ผมจึงเลือกที่จะเดินทางไปเรียนด้วย TAXI บางคนอาจจะคิดว่าแค่ เนี้ยนะ แต่ก็แล้วแต่จะคิดคับ
สำหรับผมมันคือการเกิดประสบการณ์ การเดินทางเส้นทางใหม่ๆ
เป็นจุดเล็กๆที่บางคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า
จะเรียกแทคซี่ยังไง
บอกทางเค้าแบบไหน
นั่งแล้วรถติดมิเตอร์จะขึ้นไปเท่าไร่
ถึงที่หมายแล้วโดนไปเท่าไร่
ขึ้นทางด่วน กับไม่ขึ้นค่าเดินทางเท่ากันมั้ย
มีคำถามมากมายที่คุณจะตั้งโจทย์ให้กับการหาคำตอบในช่วงเวลานั้นๆ
ผลลัพธ์ที่ได้จากวันนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า มันไม่ได้เลวร้ายมากมายเท่าสมมุติฐานที่เราตั้งไว้แต่แรกเสมอไป
แค่เรา"กล้า"ที่จะลองทำมันไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็แค่เรื่องขี้ผง หรือเรื่องคอขาดบาดตาย
สิ่งของใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ
ในหลายๆปีที่ผ่านมา ส่วนมากก็จะซื้อแต่ของใช้ของที่อยากได้ ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา ipod รองเท้า(รุ้สึกจะบ่อยที่สุด) บ้างก็ไปเที่ยวในที่ๆไม่เคยไป
แต่วันนี้ เป็นอีกวันที่เป็นวันคล้่ายวันเกิด วันนี้ผมจึงเลือกที่จะเดินทางไปเรียนด้วย TAXI บางคนอาจจะคิดว่าแค่ เนี้ยนะ แต่ก็แล้วแต่จะคิดคับ
สำหรับผมมันคือการเกิดประสบการณ์ การเดินทางเส้นทางใหม่ๆ
เป็นจุดเล็กๆที่บางคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า
จะเรียกแทคซี่ยังไง
บอกทางเค้าแบบไหน
นั่งแล้วรถติดมิเตอร์จะขึ้นไปเท่าไร่
ถึงที่หมายแล้วโดนไปเท่าไร่
ขึ้นทางด่วน กับไม่ขึ้นค่าเดินทางเท่ากันมั้ย
มีคำถามมากมายที่คุณจะตั้งโจทย์ให้กับการหาคำตอบในช่วงเวลานั้นๆ
ผลลัพธ์ที่ได้จากวันนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า มันไม่ได้เลวร้ายมากมายเท่าสมมุติฐานที่เราตั้งไว้แต่แรกเสมอไป
แค่เรา"กล้า"ที่จะลองทำมันไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็แค่เรื่องขี้ผง หรือเรื่องคอขาดบาดตาย
วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เจิม
รองเท้าใหม่
ผมคนนึงแหละที่ชอบรองเท้า Convers ไม่รู้ด้วยเหตุผมอะไรนะแต่ผมชอบอ่ะ
มันคงเป็นเพราะผมรู้สึกว่ามันทน รึเปล่านะ (คิดไปเอง - -)
แต่ซื้อมาใหม่ทีไรต้องโดนเหมียบหัวรองเท้าทุกที
คงเป็นกันทุกคนไม่ว่าของอะไรที่ซื้อมาใหม่เราก็อยากจะเสพความใหม่ของมันไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ก็มีคนมาทำลายมันโดยเหยียบทันทีที่เจอวันแรก T^T
ผมคนนึงแหละที่ชอบรองเท้า Convers ไม่รู้ด้วยเหตุผมอะไรนะแต่ผมชอบอ่ะ
มันคงเป็นเพราะผมรู้สึกว่ามันทน รึเปล่านะ (คิดไปเอง - -)
แต่ซื้อมาใหม่ทีไรต้องโดนเหมียบหัวรองเท้าทุกที
คงเป็นกันทุกคนไม่ว่าของอะไรที่ซื้อมาใหม่เราก็อยากจะเสพความใหม่ของมันไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ก็มีคนมาทำลายมันโดยเหยียบทันทีที่เจอวันแรก T^T
ป้ายกำกับ:
2012
วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
Review : The Avengers
Review : Sploi : The Avengers
ออกจากบ้าน 11:00 ถึงโรงหนัง 12:30 เป็นวันที่หนังเปิดฉากอย่างเป็นทางการวันแรกซึ่งรู็สึกได้เลยว่า
คนแม่ม*เยอะมากระบบธรรมดาเต็มยันรอบ 4 ทุ่ม ระบบสามมิติเต็นยัน 2 ทุ่ม ( นี่พึ่งเที่ยงนะ!!! )
แต่เป็นเพราะโชคช่วยมั้งมีคนยกเลิกตั๋วรอบ 13:50 งานนี้ก็ Fin!! เลยได้ดูระบบ 3D ไปอย่างสบายตัว
ค่อนข้างที่จะเริ่มอย่างไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัว แต่พอจับทางได้แล้วก็ฉลุย
ความรู้สึกแรกเลยก่อนดูคือ มันต้องเจ๋งมากแน่ๆเพราะดูหนังแยกของทั้ง 5 เรื่องมาครบแล้ว
แต่ก็แอบสงสัยว่าแล้ว SpiderMan ล่ะ Fantastic4 ล่ะ ถ้าเอามารวมด้วยคงจะหรรษากว่านี้เยอะเลย
รวมไปถึงหนังของ Marvel หลายเๆเรื่องที่ไม่ได้นำมารวมด้วยนึกแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเยอะแค่ไหนถ้าเกิดมารวมกันได้จริงๆ
เริ่มเรื่องก็ทำเอาแตกตื่นก็เลยระบิดตูมตึกถล่มแต่พอหลังจาเปิดตัวค่อนข้างจะเอื่อยเชื่อยเล็กน้อย
บางคนถึงกับบอกว่าหลับ +.+ ( แต่ผมไม่หลับนะ )
ฉากประทับใจ
ออกจากบ้าน 11:00 ถึงโรงหนัง 12:30 เป็นวันที่หนังเปิดฉากอย่างเป็นทางการวันแรกซึ่งรู็สึกได้เลยว่า
คนแม่ม*เยอะมากระบบธรรมดาเต็มยันรอบ 4 ทุ่ม ระบบสามมิติเต็นยัน 2 ทุ่ม ( นี่พึ่งเที่ยงนะ!!! )
แต่เป็นเพราะโชคช่วยมั้งมีคนยกเลิกตั๋วรอบ 13:50 งานนี้ก็ Fin!! เลยได้ดูระบบ 3D ไปอย่างสบายตัว
ค่อนข้างที่จะเริ่มอย่างไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัว แต่พอจับทางได้แล้วก็ฉลุย
ความรู้สึกแรกเลยก่อนดูคือ มันต้องเจ๋งมากแน่ๆเพราะดูหนังแยกของทั้ง 5 เรื่องมาครบแล้ว
แต่ก็แอบสงสัยว่าแล้ว SpiderMan ล่ะ Fantastic4 ล่ะ ถ้าเอามารวมด้วยคงจะหรรษากว่านี้เยอะเลย
รวมไปถึงหนังของ Marvel หลายเๆเรื่องที่ไม่ได้นำมารวมด้วยนึกแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเยอะแค่ไหนถ้าเกิดมารวมกันได้จริงๆ
เริ่มเรื่องก็ทำเอาแตกตื่นก็เลยระบิดตูมตึกถล่มแต่พอหลังจาเปิดตัวค่อนข้างจะเอื่อยเชื่อยเล็กน้อย
บางคนถึงกับบอกว่าหลับ +.+ ( แต่ผมไม่หลับนะ )
- เหมือนไม่มีข้อมูลไหนเป็นความลับเลยสำหรับ Stark จาร์วิสเจาะได้หมด ( จะเก่งไปไหน-*- )
- เทคโนโลยีของหน่วยชิลยังสู้ของ Stark ไม่ได้เลย
- อาวุธหลายอย่างของหน่วยชิล ( S.H.I.E.L.D ) มีของแปลกๆเยอะ
- เรียกได้ว่า"จาร์วิส"เป็น Artificial intelligence [AI] มี Expert System [ES] ที่ฉลาดที่สุดที่หนังทุกเรื่องเคยสร้างมา ผมว่าก่อนหน้านนี้มีเรื่อง Stealth เรื่องนึงที่สร้าง AI ที่ฉลาดขึ้นมา แต่ถ้ามาเทียบกับ จาร์วิส ชิดซ้ายไปเลย ( ชักอยากจะฉลาดพอที่จะเขียนขึ้นมาสักตัว )
- Iron man เหมือนจะเป็นตัวก่อกวนมากที่สุดในเรื่องแต่ก็ ช่วยเหลือคนอื่นได้มากที่สุดเช่นกัน
- Natasha [Black Widow] ยังโหดดุและสวยเซ็กซี่เช่นเคย รับบทโดย Scarlett Johansson
( ดูยังไงก็สวยให้ตายสิ!!! )
- เจ้าฮัคตลกร้ายมาก (ฮาจริงๆ) ฮาตั้งแต่เริ่มจนใกล้จบก็ยังฮา
- ทำไมคนรักของทอร์ไม่มาแสดงด้วย !!! ( ชอบคนสวย )
- ฮอคอายเทพเว่อไม่รู้จะยิงแม่นไปไหน หันหลังยิงยังโดน ( แหม่ะเอาถ้วยไปเลยดีกว่า )
ฉากประทับใจ
- ตาลุงคนนึงลุกขึ้นท่ามกลางคนที่ถูกบังคับให้คุกเข่าอย่างไม่เกรงกลัว
- โลกิโดนเจ้าฮัคจับฟาด ร้องอิ๋งๆ( ประทับใจแค่ไหนลองไปดู )
ท้ายเครดิตมี คลิปสั้นๆ รอชมกันด้วยนะค้าบ (ปริศนาภาคต่อไป)
ป้ายกำกับ:
2012,
Movie,
Review,
The Averngers
วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555
Review : BattleShip
BattleShip
ด้วยความกระหายหนังแนว Action Sci-Fi จึงไม่พลาดที่จะไปดูในวันแรกที่หนังเข้าโรงภาพยนต์
ต้องบอกว่าคนเยอะมาก
เริ่มดูปุ๊บอย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือ สิ่งที่ โปรโมททำให้เราเข้าใจว่าเอเลี่ยน "ซุ่มซ่อน" อยู่ใต้ทะเลลึก
แล้วโผล่ขึ้นมาอะลาวาด
แต่ต้องบอกตรงนี้เลยว่า "มันไม่ใ่ช่ !!!" ทำไมต้องทำให้เข้าใจผิดด้วยเนี่ย
มันพึ่งมาครับผม มายังไงทำไมถึงมาก็ต้องไปดูกัน
เริ่มดูปุ๊บอย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือ สิ่งที่ โปรโมททำให้เราเข้าใจว่าเอเลี่ยน "ซุ่มซ่อน" อยู่ใต้ทะเลลึก
แล้วโผล่ขึ้นมาอะลาวาด
แต่ต้องบอกตรงนี้เลยว่า "มันไม่ใ่ช่ !!!" ทำไมต้องทำให้เข้าใจผิดด้วยเนี่ย
มันพึ่งมาครับผม มายังไงทำไมถึงมาก็ต้องไปดูกัน
- ไม่มีฉายในรูปแบบ 3 มิติ ( ทำไม !!!! )
- แรกๆพระเอกจะออกแนวสร้างปัญหาไปทั่ว ( แอบเซ็ง )
- พระเอกฉลาดเป็นกรดแต่ดันบ้าพลังอยากโชว์พาวเลยดูเป็นจำเลยในช่วงต้น
แต่หลังๆคิดได้กลับมาพงาดเป็นฮีโร่ ( ดราม่าสุดๆ ) - แอบมีมุกตลกเหมือนตอนเด็กๆมีเรื่องทะเลาะเตะต่อยกะเพื่อนแล้วครูจับได้
เพื่อไม่ให้มีปัญหาก็แต่งเรื่องเนียนๆว่าเป็นอุบัติเหตุ ( ซึ่งไม่เคยเนียนและความแตกทุกครั้ง )
แต่นี่เปลี่ยนจากเด็ก 2 คนเป็นกัปตัน
- ฉีกกฏยานเอเลี่ยนไปเลยก็ว่าได้ที่ปรกติต้องบินได้เฟี๊ยวฟ้าว วาปไปมาวูบวาบ
แต่มาคราวนี้บินไม่ได้ครับ ( ตึ่ง! )
แต่สภาพยานเสมือน "กบ" ย้ำอีกครั้ง ว่าเหมือน "กบ" ลอยอยู่บนน้ำ
และเคลื่อนที่ด้วยการ กระโดด!! - ทั้งเรื่องยานเอเลี่ยนอยู่แต่ในน้ำและบนน้ำ ( ไม่คิดจะขึ้นบกกันเลย )
ให้ตายสิยานเอเลี่ยนกระโดด คิดได้ไงเนี่ย มันเจ๋งจริงๆ อยากรู้ว่ากระโดดยังไงต้องไปดู - เอเลี่ยนเรื่องนี้เป็นเอเลี่ยนที่มีจริยธรรมสูงมาก อารมณ์ประมาณว่าถ้าสิ่งไหนไม่เป็นภัยก็ไม่ทำอะไร
ต่างจากเอเลี่ยนจากหนังที่ผ่านมาถ้าไม่แสนดีเว่อร์ๆ มาโลกนี้เพื่อหลบภัยแล้วถูกทำร้าย
ก็เป็นพวกมาถึงก็ใส่เอาๆฆ่าแหลกไม่พูดไม่จาเจอหน้าก็ใส่ไม่ยั้ง
แต่เรื่องนี้มีแบบสู้ๆกันอยู่อาวุธหลุดมือสถานะกลายเป็นปลอดภัย ( ซะงั้น !! ) - แน่นอนว่าไม่ว่าหนังเรื่องไหนเทคโนโลยีของเอเลี่ยนจะเลิศหรูกว่าของมนุษย์เสมอ
- นางเอกสวยและนมใหญ่มาก ( มันจี๊ดก็ตรงเนี้ย )
แสดงโดย Brooklyn decker - ต้องยอมรับตรงๆว่า Rihana เธอแสดงได้เยี่ยมแต่เหมือนไม่ถูกจดจำมากเท่านางเอก (ผมเป็นคนเดียวรึเปล่าเนี่ย ?)
- นาวิกรุ่นเก๋าก็ไฟแรงไม่ใช่ย่อย+นักเลงใช้ได้เลยล่ะ
- แอบมีมุมตอนเรือล่มเหมือน ไททานิคเล็กน้อยแต่เปลี่ยน แจ๊ค&โรส เป็น คู่หูกัปตัน
- จบได้ดีเพราะค่อนข้างตรงใจกับหลายๆคนที่คิดไว้
- อย่าพึ่งรีบลุกจากที่นั่งเพราะมีอะไรอีกนิดหน่อยหลังจบเครดิต ^^
ในเรื่องมีการแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือร่วมใจ ความรักชาติ และสภาวะผู้นำ และข้อคิดหลายๆอย่างเช่น
- ไม่ว่านะเป็นเครื่องมือใดๆต่อให้เก่าหรือล้าหลังสักแค่ไหนถ้ารู้จักใช้มันย่อมเกิดประสิทธิผลมหาศาล
- ผู้นำที่ดีต้องรู้จักยอมรับความพ่ายแพ้แต่ไม่ควรที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ
18+ ภาพนางเอกเล็กๆน้อยๆ
สรุปเลยว่าเป็นหนังที่เยี่ยมยอมเรื่องนึงเลยสำหรับผมอาจจะมีขัดหูขัดตาเรื่องการออกแบบตัวละครเอเลี่ยนไปบ้างแต่โดยรวมต้องบอกว่าห้ามพลาด
ตัวอย่างภาพยนต์
ป้ายกำกับ:
2012,
BattleShip,
Movie,
Review
Review : Act of Valor
Act of Valor
ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบดูหนังแนว Action Sci-Fi อยู่แล้วทำให้มีความกระตือรือร้นไปดูอย่างมากแต่
งานมันยุ่งเหลือเกิน
คนส่วนใหญ่ เวลาจะดูหนังที่อยากดู ก็มักจะหาโอกาสไปดูในวันแรกๆที่เข้าฉาย หรือไม่ก็ 1-2 อาทิตย์
งานมันยุ่งเหลือเกิน
คนส่วนใหญ่ เวลาจะดูหนังที่อยากดู ก็มักจะหาโอกาสไปดูในวันแรกๆที่เข้าฉาย หรือไม่ก็ 1-2 อาทิตย์
หนังจากเปิดรอบในโรงภาพยนต์ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ผมได้มีโอกาสไปดู รอบ 22:35
และเป็นรอบสุดท้าย - -! เรียกได้ว่ารู้สึกเหมืือนเหมาโรงมานั่งดูเลยทีเดียว
และเป็นรอบสุดท้าย - -! เรียกได้ว่ารู้สึกเหมืือนเหมาโรงมานั่งดูเลยทีเดียว
เริ่มที่ความรู้สึกกับชื่อหนังไทยก็แปลมาแล้ว ดูเว่อๆไปนิดนึง( หน่วยพิฆาต ระห่ำกู้โลก )
ตามสเตปหนังบู้ส่วนมากที่พอจะจำได้ก็จะมีคำเดิมๆนิยมใช้อยู่ประมาณว่า
ระห่ำ,เดือด,ระทึก,มหาปะลัย,สะท้านโลก,มหากาฬ,กู้โลก (แต่ก็ชอบนะ ^^)
และที่สำคัญคือ เค้าว่า ใช้ กล้อง DSLR[5D MARKII] ถ่ายทำเกือบทั้งเรื่อง O,O ภาพจะเมพแค่ไหนมาดูกัน
เรื่องคร่าวๆคือหน่วย Seal(ซีล) ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยตัวประกันที่โดนจับไปทรมานเพราะเธอ
เป็นสายลับของอเมริกาซึ่งถือข้อมูลสำคัญ
ดูหนังในช่วงแรกจะงงเล็กน้อยเพราะจะเจอเพื่อนพระเอกนั่งเขียนจดหมายถึงใครก็ไม่รู้
มารู้เอาตอนจบ (ใครกันหว่า)
หลังจากรับมอบหมายก็ตามสเตปหนังบู๊เลยครับ "บุกตะลุยมันให้ทะลุอย่างไมหยุดยั้ง!"
เป็นหนังที่แฝงแง่คิดไว้มากมายทั้งเรื่องครอบครัว,การเสียสละ,การทำงานเป็นทีม
การเชื่อใจกันและกัน
ประโยคเด็ด "ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสียสละ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง"
ตัวอย่างหนัง
ตามสเตปหนังบู้ส่วนมากที่พอจะจำได้ก็จะมีคำเดิมๆนิยมใช้อยู่ประมาณว่า
ระห่ำ,เดือด,ระทึก,มหาปะลัย,สะท้านโลก,มหากาฬ,กู้โลก (แต่ก็ชอบนะ ^^)
และที่สำคัญคือ เค้าว่า ใช้ กล้อง DSLR[5D MARKII] ถ่ายทำเกือบทั้งเรื่อง O,O ภาพจะเมพแค่ไหนมาดูกัน
เรื่องคร่าวๆคือหน่วย Seal(ซีล) ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยตัวประกันที่โดนจับไปทรมานเพราะเธอ
เป็นสายลับของอเมริกาซึ่งถือข้อมูลสำคัญ
ดูหนังในช่วงแรกจะงงเล็กน้อยเพราะจะเจอเพื่อนพระเอกนั่งเขียนจดหมายถึงใครก็ไม่รู้
มารู้เอาตอนจบ (ใครกันหว่า)
หลังจากรับมอบหมายก็ตามสเตปหนังบู๊เลยครับ "บุกตะลุยมันให้ทะลุอย่างไมหยุดยั้ง!"
- ฉากที่โดนใจที่สุดคงจะเป็นฉากที่บุกช่วยตัดประกันที่ให้ Sniper สอยยามแล้วมีเพื่อนคนนึง
ไปรอรับศพบนผิวน้ำไม่ให้ศพกระแทกพื้น้ำเกิดเสียงดัง
( มันจี๊ดมาก !!!) - ทหารก็เป็นนักแสดงได้
- หนังเรื่องนี้บอกเป็นนัยๆว่า เป็นสายลับต้องอดทน
- บางทีก็รู้สึกว่าเธอ(สายลับที่ถูกจับ)มีความอดทนสูงมาก
- ดูเป็นธรรมชาติการแสดงออกไมเป๊ะเว่อจนเกินไป
- อาวุธและเทคโนโลยีที่พกติดตัวของทหารแต่ละคนใช้ได้ทันเวลาและถูกสถานะการณ์
ประมาณว่ามีมิสไซต์อยู่ก็ยกขึ้นมายิงช่วยเพื่อนๆให้รอดได้ทัน
(ไม่เหมือนหนังบางเรื่องที่ตัวละครถือปืนอยู่แต่ไม่ยิงซักที
ถือไว้จนถูกยิงตาย - -! ไม่รู้จะถือไว้ทำไมดูแล้วขัดใจ เป็นกันมั้ยครับ?)
- หน่วย Seal ก็ใช้ Canon นะจ๊ะ ^^
- หนังในหลายๆช่วงไม่ค่อยประติดประต่อกันเท่าที่ควรหรือผมตามไม่ทันก็ไม่รู้นะ
อย่างบางช่วงขับรถพุ่งลงน้ำ มีคนนึงว่ายขึ้นเรือเสร็จตัดมาฉากขึ้นเรือกันครบละทั้งที่มีคนเจ็บ
ความรู้สึกผมมันน่าจะทุลักทุเลสักหน่อยแต่ขึ้นเรือกันได้ไวเกินไป - Effect ต่างๆทำออกมาได้โอเคถึงจะไม่ถึงดีมาแต่ก็ถือว่าดีในระดับนึง
- ผมรู้สึกว่าการเปลี่ยนกระสุนปืนมีจังหวะที่ดีมากและเป็นธรรมชาติสุดๆ ( อาจเพราะนักแสดงเป็น
หน่วย Seal จริงๆเลยทำได้ดี ) ไม่เหมือนหนังไทยบางเรื่องยิงกันเป็นชั่วโมงกระสุนหมดเป็นโหลๆ
แต่ไม่เคยเปลี่ยนแมกาซีนสักอัน อารมณ์ Unlimited มากไป - ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีทีมที่ดีก็จบเห่
เป็นหนังที่แฝงแง่คิดไว้มากมายทั้งเรื่องครอบครัว,การเสียสละ,การทำงานเป็นทีม
การเชื่อใจกันและกัน
ประโยคเด็ด "ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสียสละ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง"
ตัวอย่างหนัง
ป้ายกำกับ:
2012,
Act of valor,
Movie,
Review
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ความต่าง
วันนี้เป็นอีกวันที่ทุกทรมานใจ
เพราะเมื่อคำว่า"ไม่"กลายมาเป็นองประกอบใหญ่ของบทสนทนา คงจะเดาเอาได้อย่างง่ายๆเลยว่าไม่คุณก็เขาที่กำลังหมดใจ
น้ำเสียงเป็นอีกสิ่งที่บ่งบอกว่าคู่สนทนานั้นอยากที่จะเสวนากับคุณด้วยรึเปล่า
จากที่ได้คบหากับเธอมาได้พักนึงพบว่า
ผมไม่กินเผ็ด เธอชอบอาหารรสจัด
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดผมชอบนอนเต้น เธอชอบนอนรีสอท
ผมชอบที่จะอธิบายในทุกๆสิ่ง เธอไม่ชอบฟังและรำคาญ
ผมไม่เคยหยาบคายกับเธอ เธอหยาบคายกับผมบ่อยๆ
ผมชอบถาม เธอไม่ชอบให้ถาม
หลายๆสิ่งที่เราไม่เห็นกันมันไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้ความรักมันลดลงได้
แต่ความรู้สึกต่างห่างที่ทำให้ความรักมันลดลง
เพราะความแตกต่างมันมีอยู่ทุกที่ขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะให้ความสำคัญกับความต่างมากน้อยแค่ไหน...แล้วนำเอาไปเป็นประเด็นคบคิดกับใครมากกว่า
...แค่อยากระบาย
วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)